เศรษฐกิจแบบนี้ เมื่อถึงเวลาต่อประภัยรถยนต์ หลายคนอาจตัดสินใจไม่ต่อประกัน หรือต่อแค่ชั้น 2 หรือ 3 ก็พอ เพราะคิดว่าขับขี่รถยนต์ปลอดภัยพอที่จะไม่เกิดอุบัติเหตุ ประหยัดค่าเบี้ยไปได้หลายพันบาท
แต่ทราบไหมว่า แม้เราจะพยายามขับขี่รถยนต์อย่างระมัดระวังแล้วก็ตาม แต่ความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุนั้นเกิดขึ้นได้ง่ายมากกว่าที่คุณคิดมาก โดยเฉพาะระยะหลังมานี้ก็มีเรื่องไม่คาดคิดเกิดขึ้นเสมอๆ และมีหลายสถานการณ์ที่มีเพียงแค่ประกันรถยนต์ชั้น 1 เท่านั้นที่คุ้มครอง
วันนี้เราจะลองยกตัวอย่างอุบัติเหตุ ที่มีเพียงประกันภัยรถยนต์ชั้น 1 เท่านั้นที่ให้ความคุ้มครอง ซึ่งคุณอาจจะไม่เคยคิดว่าจริงๆ แล้ว อุบัติเหตุเหล่านั้นเกิดขึ้นได้ง่ายและใกล้ตัวคุณกว่าที่คิดมาก การประหยัดค่าเบี้ยเพียงไม่กี่พันบาท อาจนำพามาซึ่งภาระค่าเสียหายที่คุณต้องจ่ายเองหลายหมื่นหรือหลายแสน
• ขับรถอยู่ดีๆ มีมอเตอร์ไซค์ชนกระจกข้างแตกร้าว แล้วหนีไปอย่างไว ประกันชั้น 1 คุ้มครองค่าเสียหายรถของคุณทันที และจะไม่เก็บค่าเสียหายส่วนแรก 1,000 บาท ถ้าคุณสามารถระบุทะเบียนรถคู่กรณีได้ แต่หากเป็นประกันภัยรถยนต์ชั้นที่ 2 หรือ 3 จะไม่คุ้มครองเลย หากไม่สามารถระบุทะเบียนคู่กรณีได้
• จอดรถแปะไว้ ใส่เกียร์ว่าง รถถูกเข็นไปชนคันหน้า กันชนบุบ ประกันภัยรถยนต์ชั้น 1 คุ้มครองค่าเสียหาย ไม่มีค่าเสียหายส่วนแรก 1,000 บาท ถ้ารถคุณมีกล้องหรือสามารถระบุทะเบียนรถคู่กรณีได้
• ฝนตกเบรกไม่อยู่ รถไถลไปชนร้านอาหารข้างทางหรือประตูบ้านคนอื่น กรณีนี้ต้องจ่ายค่าเสียหายให้เจ้าของบ้าน ประกันภัยรถยนต์ชั้น 1 จะคุ้มครองในส่วนค่าเสียหายที่เกิดขึ้นทั้งเจ้าของร้าน หรือเจ้าของบ้านและความเสียหายของรถยนต์ของเราด้วย
• สุนัขวิ่งตัดหน้ารถ จนกันชนบุบเสียหาย ประกันภัยรถยนต์ชั้น 1 คุ้มครองค่าเสียหายของรถคุณ แม้จะไม่มีคู่กรณี หากเป็นประกันชั้นอื่นๆ จะไม่คุ้มครองเลย
• ฝนตกหนัก ลมพัดกิ่งไม้หักลงบนกระจกรถจนแตกร้าว เกิดค่าใช้จ่ายจากการเปลี่ยนกระจกรถยนต์ ประกันภัยรถยนต์ชั้น 1 ก็คุ้มครองค่าใช้จ่ายในการเปลี่ยนกระจก ซึ่งประกันชั้นอื่นๆ ไม่ครอบคลุมความคุ้มครองนี้
• ขับรถฝ่าฝนและน้ำท่วมขังในซอยที่หลีกเลี่ยงไม่ได้จนทำให้เครื่องยนต์เสียหาย กรณีนี้ประกันภัยรถยนต์ชั้น 1 คุ้มครองความเสียหายในการซ่อมแซมเครื่องยนต์
• จอดรถในซอยเปลี่ยวแล้วรถหาย คุณมีประกันภัยรถยนต์ชั้น 1 คุณก็จะได้รับความคุ้มครองเรื่องค่าเสียหาย รวมถึงกรณีร้ายแรงที่สุดอย่างไฟไหม้รถด้วย
• ขับรถออกต่างจังหวัด โดนโจรปาหินกระจกแตก ประกันภัยรถยนต์ชั้น 1 เท่านั้นที่คุ้มครอง
• จักรยานมาชนรถทำให้มีความเสียหายไฟแตก ประกันภัยรถยนต์ชั้น 1 เท่านั้นที่คุ้มครอง
จากยกตัวอย่างมา จะเห็นได้ว่า มีอุบัติหลายอย่างที่ใกล้ตัวเรามากๆ และมีเพียงประกันภัยรถยนต์ชั้น 1 เท่านั้นที่คุ้มครองในทุกกรณี แม้ว่าจะไม่มีคู่กรณีก็ตาม โดยประกันภัยรถยนต์ชั้น 1 จะชดเชยค่าเสียหายทั้งคุณ ผู้โดยสาร และคู่กรณี ซึ่งหากเป็นประกันภัยรถยนต์ชั้น 2 จะเลือกคุ้มครองเฉพาะอุบัติเหตุรถยนต์ชนกันเท่านั้น ส่วนประกันภัยรถยนต์ชั้น 3 เมื่อเกิดอุบัติเหตุจะเลือกซ่อมและจ่ายค่าเสียหายให้เฉพาะคู่กรณี