บุหรี่ไฟฟ้าเป็นอุปกรณ์ชนิดหนึ่งที่ได้รับความนิยมอย่างกว้างขวางในหมู่วัยรุ่นและคนทั่วไป ด้วยความแตกต่างจากบุหรี่มวนธรรมดาตรงที่ง่ายต่อการพกพา ไม่มีกลิ่นเหม็นติดตัว สามารถสูบในอาคารหรือรถยนต์ได้ รวมทั้งมีกลิ่นและรสชาติให้เลือกอย่างหลากหลาย
ด้วยความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีทำให้การใช้งานบุหรี่ไฟฟ้านั้นง่ายสะดวก ประหยัดเวลา และมีประสิทธิภาพมากกว่าเดิม จึงไม่น่าแปลกที่มีผู้คนหันมาใช้
บุหรี่ไฟฟ้า POD มากขึ้น
2 สิ่งที่ต้องตัดสินใจก่อนเลือกซื้อบุหรี่ไฟฟ้า POD
มีสิ่งสำคัญ 2 ข้อที่ผู้ใช้ควรรู้ก่อนจะเลือกซื้อพอตไฟฟ้า ซึ่งจะทำให้ง่ายต่อการเลือกซื้อและส่งผลต่อการใช้งาน อรรถรสในการสูบอย่างแน่นอน
1.จะใช้พอตไฟฟ้าแบบเติมน้ำยาหรือไม่ต้องเติมน้ำยา
สิ่งแรกที่ผู้ใช้ควรจะต้องตัดสินใจ คือ จะใช้พอตไฟฟ้าแบบเติมน้ำยาหรือจะใช้แบบที่ไม่ต้องเติมน้ำยา ปัจจัยนี้จะส่งผลต่อการใช้งานดังนี้
– พอตไฟฟ้าแบบเติมน้ำยา
พอตไฟฟ้าชนิดนี้จะต้องคอยเติมน้ำยาและเปลี่ยนคอยล์ แต่จะมีฟีลสูบที่หลากหลายกว่า และปรับแต่งได้เยอะกว่า แถมยังมีตัวเลือกของน้ำยามากกว่าแบบไม่ต้องเติมน้ำยา
– พอตไฟฟ้าแบบไม่ต้องเติมน้ำยา
พอตไฟฟ้าชนิดนี้จะเน้นการใช้ที่ง่ายและสะดวก เมื่อน้ำยาหมดก็ถอดหัวเก่าทิ้งและเปลี่ยนหัวใหม่เข้ามาแทน แต่จะปรับฟีลการสูบไม่ได้เลย
ส่วนใหญ่พอตไฟฟ้าชนิดนี้ฟีลสูบจะแน่น คล้ายบุหรี่จริง ควันไม่เยอะ หลายๆรุ่นหัวพอตสามารถใช้ข้ามยี่ห้อกันได้
2.จะใช้พอตไฟฟ้าแบบ MTL หรือ DTL
ถ้าคุณเป็นคนที่ชอบเสพกลิ่นรสชาติ และความอิ่มของนิโคติน ควรเลือกพอตไฟฟ้าแบบ MTL แต่ถ้าหากคุณชอบสูบแบบควันเยอะๆก็ต้องเลือกพอตไฟฟ้าแบบ DTL
– MTL คือ การสูบจากปากเข้าสู่ปอด โดยผู้สูบจะต้องสูบเพื่อดึงไอน้ำเข้าไปในปากก่อนแล้วจึงหายใจเข้าปอดเป็นสเตปต่อไป การสูบรูปแบบนี้เหมาะที่สุดสำหรับผู้เริ่มต้นเนื่องจากคล้ายกับวิธีที่คนส่วนใหญ่ใช้สูบในบุหรี่จริง
– DTL คือ การสูบโดยตรงไปยังปอด วิธีนี้มักจะได้รับความนิยมจากผู้สูบที่มีประสบการณ์พอสมควร แทนที่จะสูบเอาไอน้ำเข้าไปในปากก่อนแล้วค่อยหายใจเข้า DTL กับสูบเข้าไปในปอดโดยตรง โดยที่ไม่ต้องอมไว้ในปากก่อน
วิธีเลือกซื้อบุหรี่ไฟฟ้า POD
สำหรับใครที่เป็นมือใหม่อยากจะเลิกสูบบุหรี่มวน และหันมาสูบพอตแทน อาจจะสับสนมึนงงเล็กน้อย ว่าการจะเลือกซื้อเจ้าเครื่องนี้สักเครื่อง จะต้องพิจารณาจากปัจจัยใดบ้าง แต่ไม่ต้องกังวลไป เพราะเราได้รวบรวมเคล็ดลับและวิธีการเลือกซื้อ บุหรี่ไฟฟ้า POD เพื่อให้ได้เครื่องที่ถูกใจ และเหมาะสมกับความต้องการใช้งานของผู้ใช้มาฝาก ส่วนจะมีวิธีการเลือกซื้ออย่างไรนั้น เรามาดูกันเลยดีกว่า
– เลือกจากการใช้งาน
บุหรี่ไฟฟ้า POD นั้นแบ่งออกได้เป็น 2 ประเภทหลักๆ คือ แบบต้องเติมน้ำยาเอง และ แบบไม่ต้องเติมน้ำยา ซึ่งแต่ละแบบนี้มีข้อดีและข้อเสียแตกต่างกันออกไปดังนี้
– แบบต้องเติมน้ำยาเอง
เครื่องประเภทนี้เรียกว่าระบบ Open System โดยจะต้องเติมน้ำยาเองและเมื่อใช้งานไประยะนึงประมาณ 3-4 วันขึ้นไป จะต้องเปลี่ยนคอยล์หรือไส้ใหม่ด้วยเพื่อให้น้ำยามีกลิ่นหอม เหมือนตอนแรก แต่จุดเด่นของเครื่องเหล่านี้คือมีคอยล์ให้เลือกใช้หลายเบอร์ ซึ่งแต่ละเบอร์ก็จะให้ฟิลการสูบที่แตกต่างกันออกไป และเลือกน้ำยาที่มีอยู่ในท้องตลาดจำนวนมากได้เองตามใจชอบ
– แบบไม่ต้องเติมน้ำยา
เครื่องประเภทนี้เรียกว่าระบบ Close System คือไม่ต้องเติมน้ำยาหรือเปลี่ยนคอยล์เอง เวลาน้ำยาหมดก็แค่ถอดหัวเก่าทิ้ง แล้วใส่หัวใหม่เข้าไปแทนที่ โดยเครื่องประเภทนี้จะเน้นไปที่ความสะดวกสบาย ง่ายต่อการใช้งาน แต่จะมีตัวเลือกน้ำยาน้อยต้องเลือกกลิ่นเฉพาะที่ผู้ผลิตมีขาย และ ไม่สามารถปรับฟิลสูบได้
การเลือกซื้อ บุหรี่ไฟฟ้า POD สักตัวหนึ่ง ไว้มาเป็นของคู่ใจที่ใช้งานในชีวิตประจำวันไม่ว่าจะเดินทางไปเที่ยวหรือไปดื่ม เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่เหล่าคนรุ่นใหม่นิยม เพราะอันตรายน้อยกว่าบุหรี่จริง ไม่มีกลิ่นติดตัว แถมยังไม่รบกวนคนรอบข้างด้วย
ไม่ยากเลยใช่ไหมล่ะ กับการเลือกซื้อ บุหรี่ไฟฟ้า POD ให้เข้ากับไลฟ์สไตล์ของตัวเอง แต่สิ่งสำคัญคือต้องรู้ว่าตัวเราเองนั้นชอบสูบบุหรี่ไฟฟ้าแบบไหน มีงบเท่าไหร่ ส่วนเรื่องการใช้งานในยุคนี้พอตไฟฟ้าส่วนใหญ่ก็ออกแบบมาให้มีการใช้งานแทบจะเหมือนกันหมดแล้ว